สอบถามทุกเรื่องเพิ่มเติมเพื่อความสบายใจก่อนเข้ามาได้นะ ที่ 081-6420488(โอ๋) หรือ Line id : @tkbuydiamond

เมื่อท่านสงสัยว่าทองหรือเพชรที่มีอยู่แท้หรือไม่? ดูยังไง ?

บางครั้งเมื่อท่านมีสมบัติหรือได้ของขวัญจากญาติผู้ใหญ่มา บางครั้งอาจไม่มีใบรับประกันมาด้วยหรือนานมากจนจำไม่ได้ว่าของที่มีอยู่เป็นอะไร แท้หรือเปล่า? อยากพิสูจน์จะต้องทำอย่างไรดี

 

อย่างแรกท่านต้องแยกการพิสูจน์เป็นสามส่วน คือ ทอง เพชร และพลอย ว่าแต่ละส่วนใช่หรือไม่

  1. การพิสูจน์ทองนั้นบางท่านอาจเคยได้ยินมาว่าทองแท้จะกัดเป็นรอยได้ จริงนะแต่ว่าทองนั้นต้องมีเปอร์เซนต์ที่สูงเช่น96.5% เพราะคุณสมบัติของทองคือสีเหลืองและความยึดตัวได้ซึ่งก็จะนิ่ม แต่ถ้าเป็นทองที่ประดับเพชรพลอยอย่าไปกัดนะครับจะแข๊งมากเพราะเขาใส่ทองแดงเพื่อเพิ่มความแข๊งเข้าไป
  2. หรือทองแท้ไม่แพ้ไฟ ลองเอาไฟมาเผาดู ใช่ครับถ้าทองเปอร์เซนต์สูง96.5%ขึ้นไปเจอไฟแล้วจนแดงก็ยังเหลืองอยู่ แต่ถ้าเป็นทองเปอร์เซ็นต์ต่ำกว่านั้นเจอไฟแล้วจะดำ แต่การทำเองจะยาก เพราะถ้าไฟที่มีอยู่แรงไปทองอาจหลอมละลาย หรือถ้าประดับเพชรพลอยอยู่ก็อาจเสียหายได้
  3. หรือการส่องโคดด้วยกล้อง10เท่า หรือกล้องส่องพระ ใช่ครับถ้าเป็นทอง96.5%จะมีโคดติดอยู่ตามกฎหมาย แต่ถ้าเป็นทองประดับเพชรพลอยนั้นบางครั้งอาจจะไม่ได้ระบุเอาไว้ว่า 90% หรือ 18K แต่การส่องดูว่าโดคหรือโลโก้นั้นเป็นของจริงหรือเปล่านั่นซิที่เป็นเรื่องยาก เพราะของปลอมเด่วนี้ก็มีตอกไว้เหมือนกันนะ ยากแท้ดูไม่เป็นจะกลายเป็นดูว่าของแท้ไปอีก
  4. การพิสูจน์ผิวทองด้วยชุดทดสอบจะเป็นวิธีที่ถูกต้องที่สุด คือการขูดผิดกับหินแม่น้ำแล้วองเอาน้ำกรดดินประสิวกับกรดเกลือมาหยอดลงรอยที่ขูดไว้ ถ้ารอยที่ขูดไม่ละลายไป ตามทฏษฏีว่าไว้ว่าทองน่าจะมีเปอร์เซนต์สูงกว่า75% แต่วิธีนี้ก็ต้องใช้ความชำนาญและประสพการณ์พอสมควร แถมต้องจัดหาอุปกรณ์จะยุ่งยากมากๆและอันตรายเมื่อใช้น้ำกรด
  5. เพชรนั้นบางท่านบอกให้ลองขูดกับกระดาษทราย วิธีนี้ทำไม่ได้แน่นอนนะ เพราะเพชรและพลอยอีกหลายชนิดทั้งทับทิมไพลิน ก็แข๊งกว่ากระดาษทรายเยอะมาก ขูดไปก็ไม่รู้และเสี่ยงต่อการขูดโดนตัวแหวนทำให้รอยเสียหายอีกด้วย
  6. เพชรปลอมที่เป็นกระจกจะมองทะลุได้ ถ้ามีตัวอักษรเป็นเส้นแล้วเอาเพชรปลอมมองผ่านไปจะยังมองเห็นเป็นเส้นตรงอยู่ แต่ถ้าเป็นเพชรแท้จะหักเหจนมองไม่เห็น เป็นความจริงนะแต่ก็มีพลอยอีกหลายชนิดก็หักเหได้เช่นกัน วิธีนี้เสี่ยงต่อการดูผิดมากๆ ห้ามๆๆเลยนะครับหรือบางครั้งบอกถ้ามีสีรุ้งในเนื้อเพชรจะเป็นเพชรปลอม ซึ่งนั่นคือเพชรรัซเซียหรือCZ ใช่ครับจะมีประกายรุ้งซ่อนอยู่ในเพชร แต่ของปลอมนั้นมีเยอะมากๆชนิดอื่นก็ไม่มีรุ้งเช่นเดียวกับเพชรแท้นะ
  7. เพชรนั้นปัจจุบันมีเครื่องมือที่ใช้ตรวจสอบมาแล้ว เป็นลักษณะปากกา ไว้ตรวจสอบเพชรแท้เทียม โดยใช้หลักการของการนำความร้อนและการนำไฟฟ้าครับ สามารถหาซื้อได้ตามร้านเครื่องมือช่างเพชรทองทั่วไป แต่ปัจจุบันนั้นมีเพชรปลอมชนิดใหม่ระบาดซึ่งไม่สามารถตรจด้วยเครื่องนี้ได้ คือเพชรCVDที่ทำมาในห้องLab ที่ขนาดร้านทองทั่วไปๆยังเจอหลอกเละมาแล้ว........เอ๊ะทำไงละเนี่ยทีนี้
  8. แล้วเพชรที่มีเซอร์มาด้วยล่ะจะดีที่สุดไม๊ แล้วจะรู้ได้ยังไงว่าใช่ตรงกับเซอร์ที่มีไม่เจอสลับเพชรไป? เพชรที่มีใบเซอร์นั้นโดยส่วนใหญ่จะมีการแกะสลักตัวเลขไว้ทีขอบเพชร แต่ว่าจะเล็กๆๆๆๆๆมากๆต้องใช้กล้องส่องและมีความชำนาญในการส่องพอควร และบางเม็ดที่ไม่มีตัวเลขสลักอยู่ล่ะ? จะยากมากเพราะต้องดูสัดส่วนเพชรประกอบวและตำหนิของเพชรเพื่อดูว่าตรงกันหรือไม่ ซึ่งจะค่อนข้างยากมากมากครับ
  9. แล้วพลอยล่ะ เห็นว่าต้องมีเส้นแถบสีใช่ไม๊ถึงจะเป็นของจริง ? พลอยนั้นจริงๆการระบุว่าแท้ไม่แท้ยากมากครับ เพราะของปลอมจะมีทุกอย่างตามที่ของแท้มีได้ ต้องส่องเพื่อดูลักษณะตำหนิอย่างเดียวเลย เห็นใสๆสวยๆนี่ส่วนใหญ่จะเป็นของปลอมครับ

สรุปแล้วการพิสูจน์ว่าของที่เรามีแท้หรือไม่นั้น การพิสูจน์ด้วยตัวเองไม่ง่ายครับ และเสี่ยงต่อความเสียหายต่อของที่เรามีมากๆ และเราจะทำอย่างไรล่ะ ไปร้านทองแถวบ้านได้ไม๊ ? ถ้าเป็นพวกทองนั้นก็อาจจะช่วยดูให้เราได้ครับ แต่ถ้าไม่ได้ซื้อกับร้านเขาบางทีก็อาจไม่ได้ดูให้ ส่วนเพชรพลอยนั้นส่วนใหญ่นั้นร้านทองจะดูไม่เป็น แล้วใครดูเป็นล่ะ? ก็ต้องเป็นร้านเพชรพลอยบางร้าน ทำไมต้องบางร้าน? เพราะส่วนใหญ่นั้นคนขายมีความรู้เพียงนิดหน่อย มีแค่บางร้านเท่านั้นที่จะเก่งและดูได้ แต่ส่วนใหญ่คนทั่วไปก็ไม่รู่ว่าร้านไหนดูได้ และที่สำคัญนั้นปกติร้านพวกนี้ก็จะไม่ได้ดูให้ใครครับ ขายของอย่างเดียว

จะขายที่ไหนดี? ที่จะได้ราคาดีที่สุด?

สินค้ามือสองทุกอย่างนั้นถ้าอยากขายให้ได้ราคาดีที่สุด ก็ต้องขายให้กับญาติสนิทครับหรือเพื่อนซี้ เพราะว่ารู้จักเราว่าเราซื้อมาจริงไม่โกหกเขาและเขามีความต้องการใช้สินค้าแบบที่เราต้องการขายพอดี ขายอาจราคาตกไป10-20% เท่านั้น

รองลงมาก็อาจโพสขายในเนต หรือตามเวบบอร์ดต่างๆ หรือตอนนี้ยอดนิยมสื่อโซเชียลfacebook โพสลงไปพร้อมtagคนมาดู หรือไลน์บอกเพื่อนๆในกลุ่ม ราคาที่ได้ราคาอาจตกไป 20-30%

หรือจริงๆลองกลับไปขายคืนร้านเดิมที่ซื้อมาครับ ลองค้นบัตรรับประกันดูว่ามีเงื่อนไขการรับคืนไม๊ ปกติตามร้านที่รับคืนจะหัก 15-30% แล้วลองนำไปคืนดู แต่บางครั้งบางร้านอาจไม่มีเงินสดอาจจะปฏิเสธการรับคืน อันนี้ก็ต้องลองดูกับเขาดูครับ แต่ต้องดูให้ดีสำหรับเงื่อนไขว่ารับคืนหรือรับเปลี่ยน เพราะบางร้านก็จะให้เปลี่ยนอย่างเดียวครับ หรือเงื่อนไขของร้านอาจจะมีกำหนดเวลาในการรับคืนเช่น1หรือ2ปี

ถ้าร้านเดิมไม่รับคืนสุดท้ายก็ต้องหาร้านขายครับอาจจะสอบถามร้านเพชรร้านทองแถวบ้านดู แต่ส่วนใหญ่แล้วร้านเพชรจะไม่ค่อยรับซื้อครับ หายากมากที่จะรับซื้อของคนอื่นอาจเป็นเพราะเพชรไม่ตรงกับคุณภาพของที่ร้านเขาใช้หรือร้านเขาขายแต่ของมือหนึ่งซื้อไปแล้วกลายเป็นมือสองอะไรอย่างนี้ ส่วนร้านทองก็จะกดราคาพวกเพชรเยอะครับเพราะกว่าจะขายได้ต้องใช้เวลานานก็เลยจะตีแต่ราคาทองเป็นส่วนใหญ่

ดังนั้นทางเลือกที่ดีควรจะร้านที่เป็นมืออาชีพทางด้านการรับซื้อเพชรหรือทองครับ ร้านเราจัดจำหน่ายเพชรมือสองผ่านหน้าร้านมากว่าสามสิบปีแล้ว เราสามารถนำเพชรที่ซื้อจากท่านมาจัดจำหน่ายได้ทำให้เราสามารถกล้ารับซื้อเข้ามาได้ในจำนวนไม่จำกัด ร้านเราเป็นมืออาชีพทางด้านนี้มาหลายสิบปี เปิดเป็นหน้าร้านทองเปิดอยู่กลางใจเมืองสะดวกและซื้อขายกันหน้าร้านปลอดภัย พ่อค้าใจดีพูดคุยสอบถามข้อมูลได้ก่อนเข้ามาครับ

ทำไมเพชรขายยาก?

              อธิบายง่ายๆจะบอกเป็นสองประเด็นใหญ่ๆครับคือเรื่องค่าใช้จ่ายในการขายกับสภาพคล่องในการขาย ที่ทำให้เพชรนั้นขายยากหรือขายแล้วราคาตกเยอะ

              เรื่องค่าใช้จ่ายในการขายนั้น การขายสินค้าเพชรก็เหมือนกับการขายอย่างอื่นที่มี ต้นทุนบวกค่าใช้จ่ายและกำไรออกมาเป็นราคาสินค้าที่ซื้อกัน ซึ่งถ้านับกับสินค้าทั่วๆไปจริงๆเพชรไม่ได้ขายแพงกว่าเลยครับ ต้นทุนนั้นก็มีต้นทุนเพชรและทองและค่าแรงที่ใช้ในการผลิต ค่าทองนั้นในการผลิตจะต้องมีซิ(ซิ คือเศษทองที่หายไปในการผลิต) บางทีซิอาจมีถึง20-30% ในงานบางแบบเลย และมีค่าชุบฝังเพชรพลอยอีก เมื่อได้สินค้ามาแล้วก็ต้องมีค่าใช้จ่ายอื่นๆอีกเช่น ค่าพนักงาน(ถ้าร้านไหนมีพนักงานเยอะก็รู้เลยว่าต้องชาร์จในราคาสินค้าแน่ๆ) ค่าเช่าที่ ซึ่งค่าเช่านี่สำคัญมากๆเลย บางร้านคิดค่าเช่าเป็น%ของราคาขาย ซึ่งอาจจะคิด20-30% แล้ว และมีค่าใช้จ่ายการตลาด โฆษณาทั้งออนไลน์และไม่ออนไลน์ ถ้าเป็นออนไลน์ในปัจจุบันยากที่จะขายโดยไม่เสียให้กับfacebookหรือgoogle นี่ยิ่งปัจจุบันเปอร์เซ็นต์โพสติดยากมาก ถ้าไม่จ่ายเงินก็จะไม่มีใครเห็นแน่ๆ และรวมค่าใช้จ่ายจิปาถะและค่าภาษีอีก ซึ่งรวมแล้วค่าใช้จ่ายจะอยู่ระหว่าง 15-40% ของราคาสินค้าแล้วนะ แล้วกำไรของคนขายอีก ถ้าคิดกำไรง่ายๆเอา 10-30% ค่าแรงการผลิตบวกค่าใช้จ่ายบวกกำไรจะอยู่ในช่วง 25-70% เลยทีเดียว ถึงบอกว่าถ้าสามารถคืนร้านไหนที่การันตีได้ก็คืนไปเลยครับ เพราะจริงๆเขาไม่ค่อยอยากรับคืนหรอกแต่ว่าถือว่าสิบคนมาคืนคนนึงไม่เป็นไร ดังนั้นดูจากฝั่งต้นทุนค่าใช้จ่ายแล้ว ร้านที่เราเอาเพชรไปขายจะบวกกำไรช่องว่างในการซื้ออีก 10-20% กลายเป็นว่าราคาหายไปแน่ๆ 40-80% แต่จริงๆแล้วสินค้าทุกอย่างก็มีโครงสร้างต้นทุนและค่าใช่จ่ายแบบนี้นะ ยิ่งเป็นเมืองนอกต้นทุนและค่าใช้จ่ายมากกว่าเราอีก

              ส่วนเรื่องสภาพคล่องนั้นเป็นเรื่องใหญ่สุดที่ร้านทองและเพชรส่วนใหญ่ไม่กล้ารับซื้อเพราะว่าการซื้อเพชรนั้นลูกค้าจะต้องซื้อให้ถูกใจซึ่งจะต้องมีแบบให้เลือกซื้อพอสมควรครับ ผมพูดได้เลยเพราะขนาดผมมีสินค้ากว่าสามพันชิ้นลูกค้ายังเลือกไม่ได้ ยกตัวอย่างร้านทองเล็กๆถ้าซื้อแหวนเพชรไปหนึ่งวง รวมกับของเดิมที่สะสมอยู่อาจมีแหวนเพชรรวมกันอยู่แค่40-50วงเท่านั้นซึ่งยากมากที่คนทั่วไปเข้าไปแล้วจะหาสินค้าถูกใจได้ ดังนั้นเขาจึงต้องกดราคารับซื้อเผื่อให้คุ้มค่าดอกเบี้ยที่เสียไปในการที่สินค้าเฝ้าร้านนาน

              ทั้งสองเรื่องนั้นร้านเราตอบโจทย์ลูกค้าที่ต้องการซื้อเพชรด้วยการที่เรารับซื้อเยอะเพื่อให้สต๊อคเยอะทำให้ลูกค้าทั้งซื้อปลีกและแม่ค้าสามารถเลือกซื้อของเราได้ เราขายเพชรมือสองมานานกว่าสามสิบปี และร้านเราขายกำไรไม่เยอะเน้นปริมาณเข้าออกมากๆ ขายได้เยอะทำให้เรากล้ารับซื้อเข้ามาเยอะครับ นี่เป็นเหตุผลที่เราถึงให้ราคาที่ดีกับลูกค้าได้

ทำไมเพชรซื้อแพง ขายถูก?

จริงๆแล้วสินค้าทุกชนิดจะมีค่าใช้จ่ายในการขายบวกเข้าไปเช่นค่าเช่าร้าน บางร้านในห้างอาจมีค่าเช่า20-30%ของราคาสินค้าและค่าพนักงานขาย ค่าภาษี ค่าการตลาดเช่นค่าโฆษณาอื่นๆอีกสินค้าบางชิ้นจึงอาจมีค่าใช้จ่ายอยู่ในราคาสินค้า20-50%(ขึ้นอยู่กับร้านและทำเล)ดังนั้นถ้าซื้อสินค้าจากร้านที่ไม่ได้รับการันตีการซื้อคืนจะทำให้ราคาตกไปเพราะพ่อค้าที่คุณไปขายต่อจะต้องตัดค่าใช้จ่ายออกจากราคาและยังต้องหักค่าเสื่อมและกำไรของร้านอีกซึ่งเป็นปกติของสินค้าทุกอย่างครับ

คนรับซื้อเป็นตาแป๊ะหน้าโหดเสียงดัง? ทำให้ไม่กล้าไปขายตามร้าน

บางคนอาจนึกภาพของร้านทองที่เข้าไปจะขายว่าเป็นตาแป๊ะแก่ๆเสียงดัง พูดจาโผงผาง ทำให้บางครั้งไม่กล้าที่จะเข้าไปขายหรือถ้าเป็นร้านเพชรหรูๆก็ไม่รู้ว่าเขารับซื้อหรือไม่จะเข้าไปก็เกรงๆ

ปัญหาเหล่านี้จะหมดไปเพราะร้านเรารับซื้อโดยอาตี๋(ลูกของตาแป๊ะ)พูดจาดี มีอะไรสอบถามได้ มาแล้วไม่ขายหน้าไม่โกรธไม่หน้างอแถมคุณสามารถสอบถามข้อมูลเบื้องต้นก่อนเข้ามาได้

 

 

 

Visitors: 468,866